ความท้าทายของธุรกิจ ทำอย่างไรให้รอดในยุคโควิด
ฉันต้องรอด! – ฝ่าภาวะวิกฤตเพื่อไปเจอวิกฤตกว่า
ใครที่กำลังโอดโอยว่าโควิดทำเศรษฐกิจตอนนี้แย่ แล้วคิดว่าถ้าจบโควิดแล้วอะไรจะดีกว่านี้ บอกเลยว่า หลังจากที่เศรษฐกิจพัง ยังต้องใช้เวลาที่จะเยียวยา ฟื้นฟูต่ออีก 1 – 2 ปี โน้นแหละค่ะ แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งตาย เพราะเราต้องรอด! เราจะมาเตรียมตัวเพื่อฝ่าวิกฤตนี้กัน
1.New Normal ในทุกกระบวนการ
ธุรกิจต้องเริ่มตื่นตัวที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์และ Business Model เพื่อเพิ่มช่องทางในการหารายได้ หากคุณยังยึดติดอยู่กับวิธีการเดิม ๆ เท่ากับว่าคุณกำลังสวนกระแสวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้น นั่นแปลว่าคุณกำลังฆ่าตัวตาย กลยุทธ์ที่กำลังมาในช่วงเวลานี้ ที่ต่อเนื่องติดพันมาตั้งแต่ช่วงกักตัว นั่นคือ การเปลี่ยนจากธุรกิจออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ จะเห็นได้ว่าช่วงกักตัว ผู้คนต่างใช้บริการออนไลน์กันเพิ่มขึ้นทวีคูณ ซึ่งยังคงต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ ถือว่าเป็น New Normal ที่คนเริ่มคุ้นชิน สะดวกใจที่จะใช้บริการ การจับจ่ายซื้อของเกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็ว นั่นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะคว้าเอาไว้ ส่วน Business Model คุณจะต้องสภาพของตลาดตอนนี้ให้ออก เช่น เมื่อก่อนคุณอาจจะขายหน้าร้านเป็นหลัก แต่พอเจอโควิด คนมาเดินน้อยลง คนซื้อออนไลน์มากขึ้น ถ้าคุณยังดื้อดึงที่จะขายหน้าร้าน ธุรกิจคุณคงหายไปในเร็ววันแน่ ๆ และอย่าสุดท้าย คือ การแตกไลน์ของธุรกิจให้น่าสนใจมากขึ้น คุณอาจจะต้องลองทำ Mind Map ความคิดสักหน่อยว่า สินค้าของคุณมันตันแล้วหรือยัง ถ้ายัง สามารถต่อยอดอะไรออกไปได้บ้าง ซึ่งถ้าอันหนึ่งไม่ดี แต่อีกอันดีกว่า เราก็สามารถเทไปยังอันที่ดีกว่าได้นั่นเอง
2.ใช้ประโยชน์จากมาตรการเยียวยาของภาครัฐ
ผู้ประกอบการและเจ้าของกิจการจะต้องรีบประเมินสถานการณ์ธุรกิจของตัวเอง และวางแผน แนวทางที่จะนำเอามาตรการของภาครัฐมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับกิจการของตนเองมากที่สุด โดยอย่าไปจำกัดแค่ในเรื่องการกู้ยืมเงิน เพราะนั่นไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก แต่ควรขอคำปรึกษาเพื่อที่จะใช้ปรับปรุงกิจการ หรือกระบวนการภายในบริษัทให้ดีขึ้นกว่าเดิม การแนะนำเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าให้คุณงอมืองอเท้าเพื่อให้ภาครัฐเยียวยาอย่างเดียวนะคะ เพราะท้ายที่สุด การช่วยเหลือตัวเองคือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว ไม่มีใครรู้ปัญหาได้ดีเท่ากับตัวผู้ประกอบการเอง
3.เทคโนโลยี : กุญแจสำคัญที่จะพาให้ธุรกิจรอด
จากการสำรวจพบว่าหนึ่งในธุรกิจที่จะยังคงอยู่ได้ในสภาวะเช่นนี้ นั่นคือ ธุรกิจด้านเทคโนโลยี นั่นแปลว่าการเปิดรับเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยในธุรกิจของคุณเป็นเรื่องที่ควรทำ หากผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดได้ จะเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเทคโนโลยีจะเป็นกุญแจสำคัญในการลดปัญหาเรื่องต้นทุนค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนที่มาจากมนุษย์อย่างการจ้างพนักงานเพิ่ม หรือต้นทุนที่มาจากทรัพยากร ข้าวของเครื่องใช้ และยังเป็นตัวช่วยเพิ่มผลผลิตต่าง ๆ ในระยะเวลาที่สั้นที่สุดด้วย ให้เราจำไว้เสมอว่า ธุรกิจที่ฟื้นตัวได้เร็ว จะมีโอกาสอยู่รอดในช่วงหลังโควิดมากที่สุด และเราควรมองจุดนี้ให้เป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจ เพราะตอนนี้เศรษฐกิจของโลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากยุคเดิม ๆ ไปสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น เราจึงควรมีความคิดสร้างสรรค์ การไม่ยึดติดกับอะไรเดิม ๆ และเปิดใจกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ด้วย
4.การรักษาความสัมพันธ์ของกลุ่มฐานลูกเก่า
หากคุณมีลูกค้าเก่าที่มีความเป็น Brand Loyalty แล้วล่ะก็ ควรเก็บรักษาพวกเขาเหล่านั้นไว้ให้ดี ๆ นะคะ เพราะภาวะแบบนี้มันยากจริง ๆ ที่จะหาลูกค้าใหม่ คุณอาจจะใช้วิธีพึ่งพากันระหว่างธุรกิจของคุณและกับของลูกค้า เพื่อให้เกิดการเป็นพาร์ทเนอร์ซึ่งกันและกัน การดูแลแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน จะช่วยให้เรา win-win ด้วยกันทั้งคู่นั่นเอง
ใครกำลังประสบกับปัญหาจากวิกฤตตรงนี้ สามารถลองเอาคำแนะนำข้างต้นนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเองดูได้ค่ะ สิ่งสำคัญคือการเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคเหล่านี้ เพราะอย่างไรเสีย เราก็ยังต้องเจอกับปัญหาอยู่เรื่อย ๆ สู้กับมันให้เต็มที่ ขอเป็นกำลังดี ๆ ให้กับทุกคนนะคะ